| Eng
::   เกี่ยวกับบริษัท
::   โครงสร้างผู้ถือหุ้น
::   คณะกรรมการบริษัท
::   ผู้ถือหุ้นของบริษัท
::   โครงสร้างองค์การ
::   ธรรมาภิบาลที่ดีของบริษัท
::   การลงทุนและบริหารความเสี่ยง
::   มูลนิธิเพื่อผู้ด้อยโอกาส

บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
เลขที่ 349 อาคารเอสเจ อินฟินิท วัน บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ ชั้น 24 ห้องเลขที่ 2401-2405 ถนน วิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

โทรศัพท์ : 02-666-9488
โทรสาร : 02-666-9488 กด 9
อี-เมล์ :
webmaster@acap.co.th
เว็ปไซต์ :
http://www.acap.co.th
 
 
หน้าหลัก เกี่ยวกับเรา › เกี่ยวกับบริษัท

บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือชื่อเดิม บริษัท เอเชียน แคปปิตอล แอ๊ดไวเซอร์ส จำกัด ก่อตั้งในปีพ.ศ. 2541 โดย ดร. วิวัฒน์ วิทูรย์เธียร เพื่อให้บริการด้านที่ปรึกษาทางการเงินและที่ปรึกษาด้านวาณิชธนกิจ ซึ่งรวมถึงการเป็นที่ปรึกษาในการปรับโครงสร้างหนี้ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง บริษัทฯได้ขยายความเชี่ยวชาญ และการให้บริการทางการเงินด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และให้บริการสินเชื่อเพื่อการอุปโภคและบริโภค อย่างต่อเนื่อง

2541
  • ก่อตั้งบริษัทในนาม บริษัท เอเชียน แคปปิตอล แอ๊ดไวเซอร์ส จำกัด เพื่อให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินและวาณิชธนกิจ
2546
  • บริษัทฯ แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด (มหาชน)
  • บริษัท เจแปน เอเชีย อินเวสต์เมนท์ จำกัด (เจ เอ ไอ ซี) และ เจ เอ ไอ ซี เอเชีย โฮลด์ดิ้งส์ เข้ามาลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทฯ
2548
  • บริษัทฯ ออกหุ้นสามัญจำนวน 23 ล้านหุ้นเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนในครั้งแรก และได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (ใช้ชื่อย่อ ACAP)
2549
  • บริษัท บริหารสินทรัพย์เอแคป จำกัด ได้รับใบอนุญาตทำธุรกิจบริหารสินทรัพย์จาก ธนาคารแห่งประเทศไทย
2550
  • บริษัท บริหารสินทรัพย์เอแคป (มาเลเซีย) ก่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียน 500,000 ริงกิต และเป็นธนาคารแห่งแรกในมาเลเซีย ซึ่งให้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในประเทศมาเลเซีย
  • บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการควบรวมและบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ มูลค่ากว่า 70 ล้านริงกิต ในประเทศมาเลเซีย
  • โอริกซ์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) ร่วมลงทุน ในหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวน 25 ล้านหุ้น จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด
  • ด้วยความร่วมมือกับโอริกซ์ บริษัทฯ ได้ซื้อกิจการของ บริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อการอุปโภคและบริโภครายใหญ่ของประเทศ
2551
  • อินเตอร์เนชั่นแนล ไฟแนนซ์ คอร์ปอเรชั่นได้ร่วมลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันสร้างความมั่นคงให้กับการบริหารสินทรัพย์ และพัฒนาการให้บริการบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ในภูมิภาคเอเชีย
2552
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัท เอแคป เซอร์วิสเซส เป็น 10 ล้านบาท และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็น เตอร์ จำกัด (“GSC”) เพื่อขยายการรับจ้างดำเนินงาน (Outsourcing Business) ในส่วนของบริการติดตามหนี้ และงาน บริการด้าน Call Center
  • เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด จากเดิมที่บริษัทฯถือหุ้นอยู่ร้อยละ 50.99 เป็นถือ หุ้นร้อยละ 99.99 โดยซื้อจากผู้ถือหุ้นเดิม คือ โอริกซ์ คอร์ปอเรชั่น เป็นสัดส่วนร้อยละ 49.01 ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ของบริษัทฯ
2553
  • กุมภาพันธ์ ACS ได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ให้เป็นที่ปรึกษาประเภท A หมายเลข 3093 ใบอนุญาตนี้จะทำให้เอซีเอสสามารถเข้าประมูลหรือรับงานที่ปรึกษาของหน่วยงานราชการได้
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัทย่อยของ CAP OK คือ P COL จากทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 20 ล้านบาท เป็น 220 ล้านบาท
  • จัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ เอแคป (เอเชีย) จำกัด (“บบส.เอแคป (เอเชีย)”) มีบริษัทย่อยเป็นผู้ถือหุ้น และได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ประกอบธุรกิจเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ตามพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541 มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 25 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าประมูลพอร์ตบริหารสินทรัพย์เพิ่มในอนาคต
2554
  • จัดตั้งบริษัท ออรั่ม แคปปิตอล แอ๊ดไวเซอรี่ พีทีอี ขึ้นในประเทศสิงคโปร์ โดยถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 63.97 เพื่อให้บริการงานด้านวาณิชธนกิจ
  • ขายเงินลงทุนทั้งหมดในบริษัทย่อย บบส.สตาร์
2556
  • ขายเงินลงทุนทั้งหมดในบริษัทย่อยบบส.เอแคป
  • ปิดและชําระบัญชีบริษัท เอแคป (มาเลเซีย) เอสดีเอ็น บีเอชดี ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นบริษัทย่อย
2557
  • ดร.วิวัฒน์ วิฑูรย์เธียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงจากร้อยละ 49.19 เหลือร้อยละ 8.87
  • บริษัทฯ ซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท โปรเฟสชั่นแนล คอลเลคชั่น จํากัด (“PCOL”) จาก CAP OK ที่เป็นบริษัทย่อยร้อยละ 99.99 ของบริษัทฯ จํานวน 6,204,993 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนของ PCOL ภายหลังทําให้บริษัทฯ ถือหุ้นใน PCOL โดยตรงที่สัดส่วนร้อยละ 99.99
2558
  • บริษัท เอแคป คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส จํากัด (“ACS”) เพิ่มทุนจดทะเบียนจํานวน 4,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 31,000,000 บาท เป็น 35,000,000 บาท มูลค่าหุ้นละ 10 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จํานวน 400,000 หุ้น เพื่อเสริม สภาพคล่องในการดําเนินกิจการของบริษัท
  • ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 ดร.วิวัฒน์ วิฑูรย์เธียร ประธานกรรมการบริษัท ประธานเจ้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัทได้ลาออกจากทุกตําแหน่งของบริษัทฯ โดยยังคงตําแหน่งกรรมการบริษัทอยู่ ต่อมาวันที่ 22 มิถุนายน 2558 ได้ขาย หุ้นทั้งหมดให้กับผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่และลาออกจากกรรมการบริษัทฯ
  • บริษัทโปรเฟสชันแนล คอลเลคชั่น จํากัด เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท โอเค แคช จํากัด (“OK Cash”) และเปลี่ยนตราประทับ บริษัทเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2558
  • บริษัทฯ เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท บริหารสินทรัพย์ เอแคป (เอเชีย) จํากัด (“บบส.เอแคป (เอเชีย)”) จากร้อยละ 2.39 เป็นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนของ บบส.เอแคป (เอเชีย) โดยซื้อหุ้นเพิ่ม จากบริษัท แคปปิตอล โอเค (“CAP OK”) จํานวนทั้งสิ้น 2,440,001 หุ้น
  • บริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จํากัด (“GSC”) เพิ่มทุนจดทะเบียนจํานวน 50,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 10,000,000 บาท เป็น 60,000,000 บาท มูลค่าหุ้นละ 10 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จํานวน 5,000,000 หุ้น เพื่อให้ เหมาะสมกับขนาดของธุรกิจที่กําลังดําเนินอยู่
  • บริษัทฯ ขายหุ้นของบริษัท เอแคป คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส จํากัด (“ACS”) ที่ถือไว้ทั้งหมด คือ ในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนให้กับผู้ถือหุ้นใหม่ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2558
2559
  • 17 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559 มีมติให้เปลี่ยนชื่อบริษัท เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จํากัด (มหาชน) เป็นบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน)
  • 26 กุมภาพันธ์ 2559 จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อจาก บริษัท เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กับกระทรวงพาณิชย์
  • 29 เมษายน 2559 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 มีมติดังนี้ I. เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัท จาก 1.00 บาทต่อหุ้น เป็น 0.50 บาทต่อหุ้น II. ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จำนวนไม่เกิน 62,500,000 หน่วย แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) III. เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 31,250,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 62,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
  • 10 พฤษภาคม 2559 เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 31,250,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 125,000,000 บาท เป็น 156,250,000 บาท
  • 10 พฤษภาคม 2559 จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของบริษัทจาก 1.00 บาทต่อหุ้น เป็น 0.50 บาทต่อหุ้น ทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 125,000,000 บาท มูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท จำนวน 250,000,000 หุ้น
  • 29 มิถุนายน 2559 บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2559 จำนวน 547.10 ล้านบาท
  • วันที่ 1 สิงหาคม 2559 ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ครั้งที่ 1 (ACAP W-1) จำนวนไม่เกิน 62,500,000 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวน 4 หุ้น ต่อ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย
  • 14 ตุลาคม 2559 บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2559 จำนวน 1,237.30 ล้านบาท
  • 19 ธันวาคม 2559 เปลี่ยนแปลง ทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 152,344,675 บาท จากเดิม 125,000,000 บาท
  • 27 ธันวาคม 2559 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2559 มีมติให้ออกและเสนอขาย(ตราสารหนี้)หุ้นกู้จำนวนไม่เกิน 4,000 ล้านบาท
2560
  • 10 มีนาคม 2560 บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2560 จำนวน 454.20 ล้านบาท
  • 27 มีนาคม 2560 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 มีมติดังนี้ - ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จำนวนไม่เกิน 76,172,338 หน่วย แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) - เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 39,086,169 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 76,172,338 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
  • 10 เมษายน 2560 เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 39,086,169 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 156,250,000 บาท เป็น 195,336,169 บาท
  • วันที่ 29 พฤษภาคม 2560 ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2 (ACAP-W2) จำนวนไม่เกิน 76,172,338 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวน 4 หุ้น ต่อ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย
  © Copyright 2016 ASIA CAPITAL GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED All Rights Reserved